วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2559

ชีวิตนี้สละเพื่อชาติ "ชาโน" ในบทบาททหารชายแดนภาคใต้

ชีวิตนี้สละเพื่อชาติ  "ชาโน"  ในบทบาททหารชายแดนภาคใต้

ชีวิตนี้สละเพื่อชาติ "ชาโน" ในบทบาททหารชายแดนภาคใต้

ผมชอบการเป็นข้าราชการตั้งแต่เด็กเพราะข่าวที่ออกประจำที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และก็มีทหารปฏิบัติหน้าที่คอยดูแลปกป้องประชาชนปกป้องแผ่นดินไทย มันก็ทำให้ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งที่จะได้ทำอาชีพอันทรงเกียรติโดย ชาโน แพมเบอร์เกอร์
กลายเป็นข่าวฮือฮาเมื่อช่วงปีก่อนเมื่อนักแสดงหนุ่มลุกเสี้ยว ไทย-ออสเตรเลีย-เยอรมัน วัย 19 ปี "ชาโน แพมเบอร์เกอร์" ขอวางอนาคตในวงการบันเทิงชั่วคราวและไปสมัครเป็นทหารพรานและขอร่วมเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ อ.เบตง จ.ยะลา และเมื่อเวลาผ่านไปกว่าหนึ่งปีหนุ่มชาโนกลับมารับบท "หวาย" เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มีปัญหามาจากทางครอบครัวพ่อแม่แยกทางกันจนกลายเป็นเด็กเก็บกดที่อารมณ์ร้ายในละคร"วัยแสบสาแหรกขาด" ทางช่อง3
    จึงได้มีโอกาสนั่งพูดคุยกับหนุ่มชาโนอีกครั้งถึงเรื่องราวการเป็นทหารพรานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่าหนึ่งปีกับการทำหน้าปกป้องด้ามขวานไทย หนุ่มชาโนต้องผ่านความเสี่ยงนาทีชีวิตกับเหตุการณ์ใดบ้าง และการไปรับใช้ชาติเขาภาคภูมิใจแค่ไหนเขาพร้อมแล้วกับการเปิดใจครั้งนี้
ข้าราชการแผ่นดินคือความสุข "ชาโน"
"ก่อนหน้านี้ผมได้ไปร่วมงานกับทางช่องสามไปในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และได้ไปจัดกิจกรรมตอนนั้นมันเป็นช่วงที่ว่าเหตุการณ์ไม่สงบ ทางช่องสามก็ไปจัดกิจกรรมให้ขวัญกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ที่นั่น ในช่วงนั้นแหละครับภาพและเหตุการณ์บรรยากาศต่างๆ ทำให้ผมได้เห็นว่าเขาอยู่กันได้แต่คือการสัญจรไปมาการดำรงชีวิตเขาอยู่ไม่ได้อยู่เหมือนที่พวกเราอยู่ พวกเขาอยู่ในแบบว่าจะต้องเสี่ยงต้องมีทหารคอยดูแลคอยคุ้มกัน ผมก็เลยอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมได้เข้าไปได้ช่วยเหลือเพราะว่าเห็นพี่ๆ เขาปฏิบัติหน้าที่ โอเคเขาปฏิบัติหน้าที่อย่างเสี่ยงภัยลำบาก แต่ในมุมมองของผมคือไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตามเราจะไปตอนไหนก็ไม่รู้แต่ถ้าเกิดว่าผมจะไปแล้วไปในแบบได้เป็นส่วนหนึ่งผมว่าผมมีความสุขมากกว่า"
หนุ่มชาโนเริ่มเล่าถึงเหตุผลการตัดสินใจสมัครไปเป็นทหารพรานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงอันตรายแต่นั้นก็คือความสุขและความชอบในงานราชการของผู้ชายคนนี้
"มีคนพูดไว้เยอะมากครับ และผมก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงแต่อย่างที่ผมบอกไปก็คือไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนถ้าถึงเวลาที่เราจะต้องไปก็ต้องไป แต่ในการไปคุณจะเลือกไปยังไงความเสี่ยงความกลัวก็เลยไม่ได้เป็นอุปสรรคกับผม ความกลัวเรามีแต่ต้องเป็นความกลัวที่ไม่ประมาท ไม่ประมาทในการรักษาชีวิตตัวเองและชีวิตคนอื่นด้วยและโดยปกติส่วนตัวผมๆ ชอบงานทางด้านนี้อยู่แล้วมันก็เลยเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจสมัครเป็นทหาร
ผมชอบการเป็นข้าราชการตั้งแต่เด็กครับ เพราะข่าวที่ออกประจำในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ข่าวที่ออกมามีคนเสียชีวิตและก็มีทหารปฏิบัติหน้าที่คอยดูแลปกป้องดูแลรักษาประชาชนอยู่ที่นั่น ปกป้องแผ่นดินไทยและมันก็ทำให้ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งที่จะได้ทำอาชีพอันทรงเกียรติ ผมว่าการเป็นทหารมันไม่ได้น่ากลัวมันไม่ได้แย่สำหรับผมมันคืออาชีพที่น่าภูมิใจมากถ้าได้เป็นครับ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น